ปั่นชิลศาลายา กับทริป Intania Chula Cycling ครั้งที่ 10 ปั่นแห่เสื้อ

ปั่นจักรยาน ศาลายา

” ปั่นจักรยานให้สนุกก็ต้องปั่นกันเป็นกลุ่มนะ “

คำพูดนี้เป็นจริงเสมอนะ แต่จะให้สนุกและสุขยิ่งขึ้นก็ต้องปั่นกับกลุ่มที่รู้จักกัน เฮฮากันได้นะ วันนี้ (13 ก.ย. 2563) สนุกมากๆ กับทริปปั่น Intania ครั้งที่ 10 ปั่นแห่เสื้อใหม่ พี่น้องอินทาเนีย หรือ วิศวฯ จุฬา มากันเกือบ 50 คน ทั้งขาแรง ขาอ่อน ขาใหม่ มีรุ่นพี่ที่อายุมากสุดก็ 73 ปี มีรุ่นน้องที่อายุน้อยสุดก็ 32 ปี… แต่ยังมีลูกของเพื่อนอีก อายุแค่ 12 ปี มาปั่นร่วมด้วย คงไม่ต้องบอกนะว่าทริปแบบนี้จะชิลแค่ไหน

ออกจากบ้านตั้งแต่ตีห้าครึ่ง ขับรถเห็นท้องฟ้าครื้มๆ ท่าทางฝนจะตกแน่ๆ

พวกเราล้อหมุน 7 โมงเช้า เริ่มจากที่ลานจอดรถศาลายาลิงค์ https://goo.gl/maps/NxR848H1ScBCTc9p7 หลังจากถ่ายรูปหมู่เสร็จก็ออกตัวกันเลย กลัวจะร้อน 555

แวะจุดต่างๆ นี้ถ่ายรูปที่ After the Rain Coffee & Gallery (FB: https://www.facebook.com/aftertherainshop/)

ไฮไลท์ของร้านนี้คือคาเฟ่ในสวน นั่งดื่มขนม ชากาแฟได้ชิลมาก อย่าลืมแวะไปถ่ายรูปกับชิงช้าด้วยนะ

DCIM\107GOPRO\GOPR1348.JPG

แผนที่ของร้าน After the Rain Coffee & Gallery https://goo.gl/maps/e2crASH9TVd6MAP67

จากนั้นก็ปั่นต่อไปยังสะพานแรก สะพานทรงคนองรัฐประชาสามัคคี (https://goo.gl/maps/xFtDFFmu4WqZpzrw9) สะพานที่ไม่ชันเท่าไรแต่ได้วิวของแม่น้ำท่าจีน สวยงามมากในยามเช้า อย่าลืม… ถ่ายรูปหมู่กันที่นี่นะ

ปั่นต่อไปบ้านสวนโฮมสเตย์ Floating Space By On The Boat Cafe & Co. (FB: https://www.facebook.com/FloatingSpaceCafe) ร้านยังไม่เปิด ก็ได้ถ่ายรูปเก็บบรรยากาศกันไปนะ ไฮไลท์ก็ถ่ายรูปกับแม่น้ำท่าจีน แล้วให้ตากล้องขึ้นไปชั้นสองด้วยนะ จะได้รูปมุมสูงที่สวยงาม น้องๆ โครนเลย

DCIM\107GOPRO\GOPR1392.JPG
DCIM\107GOPRO\GOPR1403.JPG

ปั่นและแวะถ่ายรูปริมทาง นี่ก็ 9 โมงเช้าแล้ว ร้านที่จะจุดต่อไปเริ่มเปิดแล้ว เราก็ปั่นกินน้ำและขนม ที่ MADi Cafe and Bistro (https://goo.gl/maps/pYJWVjbWdkQ7aLjB7) ที่นี่จะมีขนม Homemade เช่น ขนมถ้วยฟักทอง ที่อร่อยมาก มีน้ำผลไม้โกจิเบอรรี่ที่เข้าได้ทีกับขนมเลย

DCIM\107GOPRO\GOPR1418.JPG
DCIM\107GOPRO\GOPR1421.JPG
DCIM\107GOPRO\GOPR1420.JPG

อย่าลืม เดินลึกเข้าไปริมน้ำและถ่ายรูปนะ

DCIM\107GOPRO\GOPR1433.JPG

ปั่นไปอีกนิดก็ถึงสวนร่มรื่น ชุมชนคุณธรรมฯ ต้นแบบ เทศบาลเมืองไร่ขิง (เกาะลัดอีแท่น) จุดที่ 6 ไร่แสนรักษ์ แผนที่ https://goo.gl/maps/Ss3dBbzzQ5jYoUKg8

DCIM\107GOPRO\GOPR1450.JPG
DCIM\107GOPRO\GOPR1465.JPG
DCIM\107GOPRO\GOPR1464.JPG
DCIM\107GOPRO\GOPR1463.JPG
DCIM\107GOPRO\GOPR1462.JPG
DCIM\107GOPRO\GOPR1460.JPG
DCIM\107GOPRO\GOPR1451.JPG

กินขนมเสร็จก็ปั่นย่อยนิดไปถึงร้าน RIVA Floating Cafe (FB: https://www.facebook.com/RIVAfloatingcafe) เป็นอีกร้านหนึ่งที่นักปั่นไม่ควรพลาดนะ ร้านนี้ไฮไลท์ก็มีกาแฟที่หอมละมุน ขนมที่อร่อย ได้ลองข้าวหลามก็อร่อยนะ แต่แอบแพงนิด กระบอกละ 60 บาท 🙁 แต่ถือว่านานๆ กินทีละกัน พวกเรานั่งเมาท์กันนานเลย เกือบ 30 นาทีได้

DCIM\107GOPRO\GOPR1478.JPG
DCIM\107GOPRO\GOPR1480.JPG
DCIM\107GOPRO\GOPR1528.JPG
DCIM\107GOPRO\GOPR1487.JPG
DCIM\107GOPRO\GOPR1518.JPG
DCIM\107GOPRO\GOPR1517.JPG
DCIM\107GOPRO\GOPR1515.JPG
DCIM\107GOPRO\GOPR1521.JPG
DCIM\107GOPRO\GOPR1525.JPG

แผนที่ของ RIVA Floating Cafe https://g.page/RIVAfloatingcafe?share

จากแผนเดิมที่จะต้องปั่นไป จปร. คงต้องยกเลิกนะ เดี๋ยวกลับไปทานเที่ยงไม่ทัน เลยแวะมาที่สะพานวัดไทยาวาส (https://goo.gl/maps/97XiRx6YAx4Gk2vV9) ปั่นขึ้นมาชมวิวแม่น้ำท่าจีนอีกครั้ง ก่อนจะปั่นกลับ ไฮไลท์คือถ่ายรูปจากวัดไทยาวาสมากลุ่มที่สะพานนะ จะได้ภาพจากมุมล่างที่สวยงามทีเดียว

DCIM\107GOPRO\GOPR1537.JPG

จากนั้นก็ปั่นกลับ พวกเราปั่นกันมาตามเป้าหมายจริงๆ ด้วย คือความเร็วต่ำกว่า AV 20 กม/ชม. ไม่น่าเชื่อเลย แต่นักปั่นขาแรงขอสปรินท์กลับ ที่ถนนตรงเส้น 4006 เริ่มที่ความเร็ว AV 45 กม/ชม. อย่างต่ำ ปั่นทำความเร็วได้ดีจริงๆ จากความเร็วต่ำกว่า AV 20 มาจบที่ AV 22 กม/ชม. จนได้

ส่วนพี่ๆ อาวุโสและขาไม่แรงก็ตามกันทีหลังเรื่อยๆ

มาทานเที่ยงกันที่ Music Square ศาลายา (https://goo.gl/maps/fH9K2a6NEYgzTaiNA) ร้านนี้มีอาหารที่อร่อย หลากหลาย บรรยากาศดีมากๆ ใครที่ชอบถ่ายรูปก็เตรียมกล้องถ่ายรูปไปได้เลยนะครับ

DCIM\107GOPRO\GOPR1564.JPG
DCIM\107GOPRO\GOPR1567.JPG

ผลประกอบการของทริปนี้คือ จบที่ระยะทาง 45 กม ความเร็ว AV 22 แต่คนส่วนใหญ่ AV น่าจะต่ำกว่า 20 นะ ถือว่าได้ตามเป้าหมายจริงๆ 555 วันนี้อากาศดีทั้งวันด้วย ทำให้ปั่นสนุกเฮฮากันตลอด

แล้วเจอกันทริปหน้านะครับ

คลิปของทริป Intania Chula Cycling Club ครั้งที่ 10 ปั่นแห่เสื้อ

เส้นทางปั่น

ปั่นจักรยาน LRT แก่งกระจาน แบบ Team Time Trial

ปั่น จักรยาน LRT แก่งกระจาน

LRT แก่งกระจาน เป็นหนึ่งในงานปั่นจักรยานที่นักปั่นไม่ควรพลาด จัดโดยพ่อใหญ่ ที่จัดงาน LRT โป่งกระทิง ราชบุรี

ถามพ่อใหญ่ LRT คืออะไร แกบอกว่าก็คือ Love Riding Thailand

ปั่นจักรยานแบบ Team Time Trial (TTT) คือการปั่นเป็นกลุ่ม 5 คน (แต่ละงานกติกาอาจจะต่างกันนะ 7 คน ก็มี) โดยมีการปล่อยตัวทีละทีม เพื่อความปลอดภัยในการปั่นจักรยาน การแข่งขันจะพิจารณาเวลา Chip time โดยพิจารณาที่ 3 แรกที่เข้าเส้นชัย

แน่นอน ถ้าต้องการเป็นผู้ชนะ หลายทีมจะเลือกที่จะให้มีตัวช่วย 2 คนที่เป็น Domestic หรือหัวลาก แล้วให้ 3 คนเก็บแรง เพื่อที่จะเข้าเส้นชัยสุดท้าย

การปั่นแบบ Team Time Trial จะเป็นการสลับการกันลาก คนละ 10-30 วินาที หรือคนละ 200-500 เมตร ขึ้นอยู่กับขาแรงแต่ละคน ใครแรงเยอะหน่อยก็ปั่นนานขึ้น ใครไม่มีแรงก็ปั่นน้อย แล้วสลับลงมาหมก

นักปั่นจะต้องปั่นด้วย Power Zone 5 ตอนเป็นหัวลาก และจะต้องเผื่อแรงของเราให้หมดพอดีจนจบ

ฟังดูหลักการแล้วไม่น่ายากเลย…. แต่สำหรับทีม Intania 71 ของเราแล้ว ชัยชนะก็สำคัญนะ แต่มิตรภาพหรือความสุขที่ได้ปั่นด้วยกันเป็นเป้าหมายที่สำคัญกว่า

ดังนั้น ทีมของเราต้องปั่นไปด้วยกันจนถึงเส้นชัย เรียกว่าขอเข้าเส้นทั้ง 5 คนเลยครับ จะเป็นแม่กิมบ๊วยก็ได้

“Life is like riding a bicycle. To keep your balance you must keep moving”

Albert Einstein (1879 – 1955), physicist who developed the general theory of relativity

ผมขอบันทึก Race Note ของการแข่งครั้งนี้ไว้นะครับ นี่เป็นการแข่งแบบ Team Time Trial ครั้งที่ 4 ของผม

ผมชอบการปั่นแบบ Team Time Trial มาก สนุก ออกแรงเต็มที่ และที่สำคัญคือปลอดภัยด้วย เพราะจะมีมอเตอร์ไซต์นำตลอดเส้นทาง

เริ่มออกเดินทางจากกรุงเทพ

เราเดินทางตั้งแต่วันเสาร์ที่ 22 ส.ค. 2563 ค้างคืนที่ The Grape Resort ที่เป็นจุด Start

ถึง The Grape Resort และเจอเพื่อน เอ ตอน 4 ทุ่ม เพลียจริงๆ

วันอาทิตย์ ตื่นแต่เช้าตี 5 ทะยอยกันอาบน้ำและทานข้าวเช้า งานนี้ ทีม Intania 71 เปิดตัวด้วยชุดปั่นใหม่ด้วย บอกได้เลยว่าภูมิใจในสีสันโดดเด่นอินเทรนด์ของเสื้อใหม่มาก 🙂

เช้าแล้ว เรียงลำดับเข้าห้องน้ำ
ยานพร้อม คนพร้อม (มั้ย) เนี่ย
สายฟุ้งฟิ้งจริงๆ
เมาท์ม้อยกันไป
ทางเข้าริสอร์ท

ทีมของเราประกิบด้วย ม้ง เอ ปุ๊ก ต้น และตัวเอง แข่งทั้งหมด 10 ทีม กับระยะทาง 35 กม แบบ Rolling hill ขอเล่าแบบไม่บอกชื่อเนอะ เราตั้งใจไปกันเป็นทีมแบบจบ 5 คนเข้าเส้น

ก่อนปล่อยตัว ก็ขอล้างยานและโซ่อีกรอบ เพื่อความมั่นใจ แต่จริงๆ คือ Big Spray ให้ลองน้ำยาล้างโซ่และน้ำมันหล่อลื่น ก็ลองซะหน่อย ผลการปั่น โซ่ลื่นไหลดีจริงๆ ครับ

ล้างโซ่ หยอดน้ำมันหล่อลื่นซะหน่อย
ล้างตัวให้สะอาด พร้อมแข่งแล้ว
ถ่ายรูปกับพ่อใหญ่ เจ้าของงาน
เตรียมตัว…
…ออกตัว

ออกตัวด้วยความมั่นใจ ผ่าน กม แรก ขึ้นเนินแรก เอาล่ะซิ เพื่อนเริ่มออกอาการความเร็วตกตามไม่ทัน ทีมเริ่มกระจายเป็น 2 กลุ่ม ไม่เหมือนที่ซ้อม แต่เราก็รอๆ กัน ขาลงเนินก็อัดเต็มที่ av สูงสุดถึง 61 กม/ชม กันเลยทีเดียว

ผ่านเนินซิม ขาลงชิวเลย
อ้าว ตามมาเร็วๆ


ผ่านเนินขึ้นลงไปเรื่อยๆ เกาะกลุ่มบ้าง แตกบ้าง เนินชันสุดอยู่ที่ 8% ถือว่าไม่มาก แต่สำหรับใครที่ไม่ชอบปั่นเขา มีเพลียแน่นอน

กล้องอยู่ข้างหน้า อย่างนี้ต้องสปรินท์โชว์หน่อย
ขึ้นเขาแล้ว เหนื่อยนะ
เฮ้ย ถูกแซง
เห็นกล้องไม่ได้ ต้องแอคท่าซะหน่อย


ปั่นกันไปจนถึงจุด U Turn ครึ่งทาง และปั่นไปสักพัก เพื่อนที่ไม่ถนัดเขาเริ่มห่างไปไกล จนกลับมาเนิน 8% อีกครั้ง พวกเรา 4 คน เลยตัดสินใจว่าคงต้องทิ้งเพื่อนคนที่ 5 เพราะห่างกันเป็น กม เลย

ไม่ได้เหนื่อยขนาดนั้นนะ แค่แอคท่าเฉยๆ

จากนั้นก็ปั่นลากกันไป 4 คน มีรอคนที่ 4 ด้วย จริงแล้วจะไม่รอก็ได้นะ กติกาจะคิดเวลาของ 3 คนแรกที่เข้าเส้น แต่งานนี้ อยากจบพร้อมกันให้มากที่สุด จบด้วยการเข้าเส้นแบบสปรินท์ 4 คน แบบชื่นมื่นครับ

เย้… จบแล้ว

ทีม Intania 71 เราอายุมากสุดจาก 10 ทีม เฉลี่ยอายุ 50 ปี บางทีมอายุรุ่นลูกด้วย แต่ฮาที่สุด ดูจากความดีใจของใบหน้าที่ได้ออกนอกบ้านมาปั่นจักรยานกัน 555

เพื่อนๆ ยังไม่คุ้นกับการปั่นแบบ Time Trial ที่จะต้องปั่นจนหมดเมื่อเข้า บางคนยังเหลือแรง ผมนี่แทบหมดเลย สนุกจริงๆ กดเต็มที่ หัวใจ โซน 4 เกือบ 80%

ขอบคุณเพื่อนๆ ที่ช่วยกัน รอ ลาก และให้กำลังใจจนจบ

ขอฉลองหน่อยนะ

แม้ทีมแข่งขันจะน้อย แต่สนุกและปลอดภัยมากๆ เส้นทางใหม่สนุกไม่ร้อนเลย ปีหน้า ขอมาใหม่อีกครั้งนะ

วิ่ง City Run: Bangrak Monochrome

Monochrome Run … ขอเรียกและเข้าใจเองนะว่าเป็นการวิ่งไปและถ่ายรูปสีโมโนโครมไปด้วย

โลกที่มีแต่สีดำและขาวคงจะแปลกน่าดู สีดำและสีขาวบอกถึงความดีและความชั่ว ถูกและผิด โดยมีเชดเทาเป็นตัวเชื่อม บ่อยครั้งที่ติดสินใจเป็นเทาๆ มาตลอด 😞 ยากนะที่จะตัดสินใจ 🙂

เช้านี้วิ่งจากจุฬาฯ ไป River City โดยผ่านพระราม 4 หัวลำโพง สตรีมหาพฤฒาราม เลี้ยวซ้ายไป River City ถ่ายรูปหน่อย แล้วตีกลับมาทางสุรวงศ์ ผ่านสามย่าน กลับมาถึงจุฬาฯ เบ็ดเสร็จก็ 6.44 กม ใช้เวลา 1 ชั่วโมง กำลังดีเลย

#Bangrak#MonochromeRun

ย่านเชียงกง ร้านเดิมเหลือน้อยแล้ว แต่ยังมีซากเครื่องยนต์ให้เหลือเห็นอยู่บ้าง
ถ้าเป็นเฟืองจักรยาน ตัวจักรยานคงใหญ่น่าดู
ร้านบะหมี่ Hong Kong Noodle ตรงหัวลำโพง ไม่ได้แวะทานนานมากแล้ว
ร้านขายของอุปกรณ์นักเดินทางบริเวณหัวลำโพง
หัวลำโพง ที่กำลังจะกลายเป็นอดีตในเร็วๆ นี้ น่าจะกลายเป็นพิพิทธภัณฑ์นะ
อีกมุมหนึ่งของหัวลำโพง เก็บภาพไว้เป็นที่ระลึกก่อนนะ
วิ่งมาถึงโรงเรียนสตรีมหาพฤฒาราม
บริเวณคลองหน้าโรงเรียนสตรีมหาพฤฒาราม
คลองขุดลงแม่น้ำเจ้าพระยา คลองนี้ยาวขนานถนนกรุงเกษมเลย
สำนักพิมพ์ซิงจงเอี๋ยนรายวัน อยู่หัวมุมเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนเจริญกรุง มุ่งหน้าสู่ River City แถวนี้เรียกว่าตลาดน้อย ของกินเพียบ
กำแพงข้างสำนักพิมพ์ ซิงจงเอี๋ยนรายวัน
ถนนเจริญกรุง 24 Street Art
ขอ Selfie ตัวเองบ้างนะ ถนนเจริญกรุง 24
ข้างหน้าเป็น River City แล้ว
วิ่งมาถึงเป้าหมายแล้ว ระยะทางแค่ 3.5 กม ได้
ทางไปทางเรือสี่พระยา
ร้านเกี๊ยวเฟิงจู หมูเจริญ ร้านที่เพิ่งเปิดได้ไม่กี่เดือน แต่ก็กิ๊ฟเก๋มากครับ
ป้ายหน้าร้านบอกถึงความเป็นจีน
ร้านเฟิงจู หมูเจริญ
อีกด้านของร้านเฟิงจู หมูเจริญ
อีกมุมของร้านเฟิงจู หมูเจริญ
ท่าเรือข้ามฟากสี่พระยา ใช้บริการประจำสมัยเรียนที่จุฬา จากบ้านมาขึ้นเรือแล้วนั่งรถเมล์ สาย 36 ลงหน้าจุฬาฯ 🙂
Icon Siam
อีกมุมหนึ่งของแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณท่าเรือข้ามฟากสี่พระยา
ท่าเรือข้ามฟากสี่พระยา
เรือกำลังเทียบท่า ที่ท่าเรือสี่พระยา
ผู้โดยสารเร่งรีบแต่เช้า แต่เรายังวิ่งอยู่เลย 555
ไปทางไหนดีนะ
บ้านเลขที่ 1 ของกัปตันบุช อดีตกรมเจ้าท่าคนแรกของประเทศไทย
บ้านกัปตันบุช
Street Art ตรงข้ามบ้านกัปตันบุช
Warehouse
ร้านก๋วยเตี๋ยวนิวเฮงกี่ ร้านประจำ อร่อยมาก อยู่ตรงข้างไปรษณีย์กลาง
ไปรษณีย์กลาง
ไปรษณีย์กลาง
ไปรษณีย์กลาง กำแพงที่บ่งบอกถึงวัฒนธรรมยุโรปที่มีต่อประเทศไทย
ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ วัดดวงแข อร่อยได้ใจเลย
เหนื่อยแล้ว ขอพักหน่อยนะ
อาคารสำนักงานและร้านกาแฟ Kanom ที่เพิ่งเปิดใหม่ไม่นาน
โรงแรมมา โรงแรมนี้มีตำนาน 🙂
Street Art บริเวณถนนสุรวงศ์
โรงแรม Marriott สุรวงศ์ อยู่ตรงข้ามออฟฟิศเลย นั่งดืมกาแฟและทำงานบ่อยมาก
ออฟฟิศของบริษัท ซันเด โซลูชันส์ จำกัด นี่เอง
ตลาดวัดแขก เปิดตั้งแต่ 6 โมงเช้าถึง 9 โมง หลังจากนั้นตลาดวายแล้ว ของไม่แพง ผลไม้ก็ถูกด้วย
ห้องสมุด Neilson Hays Library ที่เป็นตำนานแห่งความรัก ว่างๆ จะมาเล่าให้ฟังนะครับ
ร้านอาหารและ Gallery ของ ห้องสมุด Neilson Hays Library
ห้องสมุด Neilson Hays Library
ร้านคั่วกลิ้งผักสด สาขาสุรวงศ์ มาบ่อย เพราะแฟนของรุ่นน้องเป็นเจ้าของร้าน ช่วยกันอุดหนุนหน่อยนะ แต่อร่อยจริง
ถนนนราธวาส และที่เห็นก็เป็นตึกมหานคร ตึกที่ถูกกล่าวขานมากที่สุด ทั้งดีไซน์และอาถรรณ์ของตึกนะ
บ้านสุริยสัย เคยเป็นร้านอาหารหลายๆ ร้านมาก่อน
สามย่านและมุมตึกจามจุรีสแควร์
สามย่านกับวัดหัวลำโพง
สามย่ายมิตรทาวน์ แหล่งช็อปปิ้งและกินแห่งใหม่ของชาวจุฬาและคนแถวพระราม 4
ร้านกาแฟ Brave แถวจุฬา กาแฟอร่อย รสชาติดีมาก
สถานีดับเพลิง จุฬา
ตลาดสามย่าน มาเดินและซื้อของนับครั้งไม่ถ้วนเลบ
ตลาดสามย่าน สะอาดจริงๆ
อุทยาน 100 ปี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
กาแฟและเค้กของร้าน Brave Roasters อร่อยมาก

วิ่ง A Day of Chula

เช้านี้มาวิ่งรำลึกความหลังในรั้วจามจุรี คิดไม่ถึงว่าวิ่งไปวิ่งมา ระยะทาง 10 กม. เลยนะ ใหญ่จริงๆ นี่ยังวิ่งไม่ทั่วจุฬาฯ ด้วยนะ

บรรยากาศดีมาก วิ่งแล้วเพลินจริงๆ ใครยังไม่เคยวิ่ง แนะนำเลยครับ หรือชวนผมมาวิ่งอีกทีก็ได้นะ

ขอไล่คณะที่วิ่งผ่าน.. เภสัช สถาปัตย์ ศิลปกรรม สัตวฯ ทันตะ แพทย์ รัฐศาสตร์ อักษร วิศวะ วิทยา เศรษฐศาสตร์ บัญชี นิติ นิเทศ ครุ .. ขาดเทคนิคการแพทย์

#ADayofChulalongkorn#running

Audax Surin 600 KM | 3-4 มี.ค. 2560

Audax surin 600 KM

บันทึกของการปั่นในงาน Audax Surin 600 กม เป็นอีกหนึ่งรายการโหดของปีนี้เลย (คนอื่นอาจจะบอกธรรมดานะ) หลังจากจบงานพิชิตดอยอินทนนท์ไป 2 สัปดาห์ก่อน


เริ่มจากเพื่อนต้นชวน “ไปมั้ย 600 กม สุรินทร์” ว่างนิ เลยตอบทันที “จัดไป” เลยชวนน้องอีก 2 คน น้องปุ๋ม Intania 72 กับน้องนุช Theenuch Waraphan ขาอึด และเป็นอย่างที่คาด ไม่มีการปฏิเสธหรือห้ามกันเลย

แต่ข่าวร้ายแรกคือ ปุ๋ม ไม่สามารถไปได้ ติดธุระด่วน และอีกเรื่องคือ.. ผมเป็นหวัดลงคอ หลังจากสมัครไปแล้ว รีบหาหมอ กินยาๆ ทำตัวดี หายไวๆ นะ อาการดีขึ้นเยอะ ลุยซิ


เริ่มปั่น 6:30 ของวันเสาร์ จากศาลาว่าการเมืองสุรินทร์ อากาศเย็นสบายจริงๆ เริ่มต้นดีมีชัยไปกว่าครึ่ง
ปั่นถึง CP1 (42 กม) จังหวัดบุรีรัมย์ ก่อนเวลา Cut off สบายๆ ชมวิว ทางสวยงามมาก แวะข้างทางกินข้าวเช้าตามสไตล์นักปั่นสายชิว กินไปหนึ่งชั่วโมงได้ โดยไม่รู้ตัวว่าทางข้างหน้าจะโหดแค่ไหน


ปั่นต่อไปถึง CP2 กม 102 เอาแล้วซิ อากาศเริ่มร้อน ไหนใครบอกว่าวันนี้จะร้อนน้อย ตอนหลังมารู้ว่ามันคือ 41 องศา มันน่าจะร้อนที่สุดแล้วนะ


ปั่นต่อไปแบบร้อนสาหัส แบบนี้คุณชายกลางไม่ชอบ ร้อนเกิน จนถึง กม 138 CP3 ปราสาทหินพิมาย นครราชสีมา ไม่ได้มาที่นี่นานมาก แวะถ่ายรูปหน่อย หาข้าวทาน แล้วปั่นไปเรื่อยๆ อย่างทรมานด้วยความร้อน ร้อนจริงๆ แวะดืมน้ำตลอดทาง ทุกร้านใจดีจริงๆ ซื้อน้ำแถมน้ำแข็ง


จากนั้นปั่นต่อไปอีกถึง กม 195 ที่ CP4 เวลายังพอเหลือ คาดว่าเราจะปั่นไปนอนที่ CP7 กม 378 จองที่พักไว้เรียบร้อย แต่ก็มาเจอสิ่งที่ไม่คาดคิด ทางลูกรังอีก 4 กม ทำให้ปั่นเสียเวลามาก เราเริ่มกะเวลาผิดไปเยอะ ทางเริ่มมืด อากาศเริ่มเย็น จนรู้สึกหนาว เหมือนจะมีไข้ คงจะมาจากหวัดลงคอที่ยังไม่หายขาด

ปั่นไปถึง CP5 (กม 254) อ. นางรอง แวะ 7-11 ซื้อเสื้อกันฝนมาใส่กันลมหนาว ก็ช่วยได้เยอะเลย แต่ชัวร์ๆ ก็กินยาพาราไปหนึ่งเม็ด


แวะทานก๋วยเตี๋ยว แต่ผมทานไม่ลง กินไปได้ 2 คำ เหมือนจะไม่สบาย แต่พยายามหาน้ำ กล้วยตากทานเพื่อไม่ให้หิว จากนั้นก็ปั่นกันต่อไป ทั้งหนาวเย็น คราวนี้ปั่นทางเขา ประมาณหนึ่งกิโลกว่า ความชันระดับ 12% ดีนะที่ฝึกทางเขามาเยอะ แต่โหดมาก ปั่นมากว่า 200 กม แล้วเจอทางชันอย่างนี้ ปั่นจนถึง Control Point กม 282 ปราสาทหินพนมรุ้ง เจ้าหน้าที่บอก พี่ไปนอน CP7 ไม่ไหวหรอก แนะนำให้นอน CP6 ข้างหน้าเลย


จากนั้นก็ปั่นต่อไปจนถึง CP6 วัดบ้านกรวด ตอนนั้นก็ตี 1 แล้ว คืนนี้นอนศาลาวัด หัวถึงหมอนก็หลับเลย ตื่นมาตี 3 ปั่นต่อเดี๋ยวจะไม่ทัน


ปั่นต่อไปแบบง่วงๆ หนาวๆ ด้วย ปั่นไป หยุดไป เจ็บก้นอีก จนถึง CP7 ช่องจอม สุรินทร์ กม 378 ก่อนเวลาแบบฉิวเฉียด


ยานเพื่อนต้นก็มีปัญหา ระบบ Di2 เฟื่องไม่เข้า แต่โชคดีแก้ไขสำเร็จ นึกว่าจะมีข้ออ้างไม่ปั่นต่อแล้ว 5555


เช้าวันใหม่ ชีวิตเหมือนเริ่มต้นใหม่ แรงกลับมาแบบงงๆ แต่เวลามันเหลือน้อยเต็มที ปั่นต่อไปถึง Control Point วัดไพรพัฒนาฯ ศรีสะเกษ กม 424 จริงแล้วเจ้าที่หน้าที่จะไม่อยู่แล้ว เพราะนึกว่าพวกเราไม่ปั่นต่อแล้ว โชคดีมีเจ้าหน้าที่อีกคนขับรถมาเจอ จึงให้เราไม่ DNF


ปั่นต่อไปแบบร้อนๆ จนถึง CP8 อ. ขุนหาญ ศรีสะเกษ กม 482 ในเวลา Cut off พอดี เพื่อนๆ ก็กินข้าวกัน แต่ผมทานไม่ลง กินน้ำและกล้วยต่อไป


ปั่นต่อไปจนถึง Control point กม 514 อ. ขุขันธ์ ศรีสะเกษ แล้วก็ปั่นยาว ท่ามกลางความมืดของถนน หลุมก็เยอะ หมาเห่าตลอดทาง จนถึง CP9 ปราสาทศีขรภูมิ ประมาณ 2 ทุ่ม พักได้แป๊บก็ต้องไปต่อ กำลังใจและแรงกลับมาเต็มที่ เพราะเหลืออีก 35 กม สุดท้ายแล้ว


ระยะนี้ปั่นกันเร็วมาก AV35 กันทีเดียว กลัวจะไม่ทันเวลา Cut off แต่ในที่สุดพวกเราก็เข้าเส้นก่อนเวลา Cut off 3 นาที


สรุป ปั่นทั้งหมด 23:55 ชั่วโมง (ใช้เวลา 39 ชั่วโมง) กับการปั่นระยะทาง 610 กม เป็นเส้นทางที่ครบรสจริงๆ ปั่น Audax แบบข้ามคืนมันโหดจริงๆ


ผมได้เรียนรู้วิถีการปั่นจักรยานจริงๆ ก็จากทริปนี้นะ รู้วิธีการบริหารแรงและการกิน เพื่อนเตรียมตัวศึกใหญ่ข้างหน้าเร็วๆ นี้


สุดท้าย โชคดีไม่มีบาดเจ็บมาก แค่มือชาและเจ็บก้นนิด 🙂

Intania71Cycling #ThunderDuckTriathlon #AudaxSurin600KM

สุดติ่งแดนอีสาน

Strava https://www.strava.com/activities/888865477